top of page

กลยุทธ์ BRAND DNA เข็มทิศของงาน HR

  • รูปภาพนักเขียน: Baramizi
    Baramizi
  • 29 เม.ย.
  • ยาว 2 นาที

< บทความโดย Jullakiat Sinchaichukiat Brand Directors of Baramizi Consultant  >


Why Brand & Business Fails ?

จากประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษามาหลายปีนั้น  ปัญหาของการสร้างแบรนด์และธุรกิจที่มักจะล้มเหลว นั้นมีหลากหลายปัจจัยแต่สิ่งหนึ่งที่พบบ่อย คือ หลายๆแบรนด์และธุรกิจมีกลยุทธ์ที่ดี แผนงานที่ดี แต่ไม่สามารถ Implement ให้เป็นจริงตามกลยุทธ์ได้ครับ ซึ่งโดยมากเป็นเพราะเรื่อง "คน" ครับ


เราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ?

ก่อนจะตอบคำถามว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ? นั้นเราต้องเข้าใจก่อนว่า แบรนด์ ที่จะประสบความสำเร็จเขาไม่ได้สร้างแค่ภายนอก (External Branding) แต่ต้องสร้างแบรนด์มาที่ภายในด้วย (Internal Branding) ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์จากภายในสู่ภายนอก กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เรามักละเลยเพราะเห็นผลไม่เร็วมากนัก และเร่งสร้างไม่ได้ด้วยคือ การสร้างแบรนด์ไปยังพนักงาน ทำให้พนักงานกลายเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่กลมกลืนเป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับการสร้างพนักงานให้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์นั้นหรือ Internal Branding เราเริ่มจากกลยุทธ์ที่เรียกว่า Brand DNA (พันธุกรรมของแบรนด์ภายใน)


นิยามของ Brand DNA ด้าน HR คือ ?

Brand DNA ไม่ได้เป็นแค่แนวคิดทางการตลาด แต่เป็น


"พันธุกรรมของแบรนด์ที่ถูกหล่อหลอมเป็นตัวตนของพนักงาน นำไปสู่การสร้างคุณค่าหลักและจะกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรต่อไป"


ฟังก์ชั่นของกลยุทธ์ Brand DNA จะเป็นแนวทางในการสรรหา พัฒนา และรักษาพนักงานให้สอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์

โดยกลยุทธ์ Brand DNA จะไปกำหนดนโยบายของ HR (Human Resources) ดังนี้


1. ระบบการคัดเลือกบุคลากร (Recruitment System)

เป็นระบบที่สำคัญมากเพราะเป็นกระดุมเม็ดแรกที่เริ่มรับคนเข้ามาในองค์กร  ซึ่งนอกจาการรับ จากคัดเลือกที่มาจากความสามารถด้านทักษะการทำงานแล้ว นั้นไม่เพียงพอในปัจจุบัน  องค์กรที่สามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์ได้ตามแผนนั้น ทรัพยากรบุคคลที่คัดมาหรือระบบสรรหาพนักงาน ต้องมีกลยุทธ์ Brand DNA ที่ชัดเจน ในการบ่งชี้ถึงคุณสมบัติ แนวคิดทัศนคติ โดยมีคาแรกเตอร์ตรงกับ DNA ของแบรนด์ จะทำให้สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ได้รวดเร็ว และ ใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าในตลาดเพราะลดอัตราการเข้า ออกของพนักงานได้มากทีเดียวครับ เช่น ถ้าแบรนด์ ที่ต้องการนำเสนอคุณค่า นวัตกรรม → พันธุกรรม หรือ Brand DNA ต้องมองหาคนที่มีพันธุกรรมที่ กล้าคิด กล้าทดลอง สิ่งใหม่ๆ  

2. พัฒนาและฝึกอบรม (Human Development System )

Brand DNA ที่ชัดเจน  ช่วยในการกำหนดแนวทางการออกแบบ เนื้อหาและวิธีการเทรนนิ่งที่ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พนักงานมีพันธุกรรรมไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ เช่น แบรนด์องค์กรที่เป็นธุรกิจที่มีความสามารถหลักด้านการบริการนั้น DNA ของคนมักจะมุ่งเน้นการพัฒนาด้าน Soft Skills โดยการพัฒนาให้บุคลากร มี DNA ของความเข้าอก เข้าใจผู้อื่น (Empathy)  การฝึกอบรมหรือการจัดโปรแกรมการพัฒนาคนจึงมักที่จะมีเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจลูกค้า, การรู้ทันต่อความรู้สึกลูกค้าที่รวดเร็ว สามารถช่วยตอบสนองการแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีและรวดเร็ว ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจที่มีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้นได้

3. กำหนด "พฤติกรรม - วิธีคิด"  (Behavior & Mindset) ของพนักงาน

Brand DNA ที่ชัดเจนช่วยให้พนักงานเข้าใจ อย่างชัดเจน ว่าพวกเขาควรต้องมีการทำงานและปฏิบัติตน ในองค์กรรูปแบบใด และ วิธีคิดแบบไหนเพื่อตอบสนองความเป็นแบรนด์องค์กร  แบรนด์องค์กรที่มีพันธุกรรมที่ปลูกฝังไปในทางเดียวกันจะทำให้พนักงาน มีแนวทางที่รู้ว่า

- ควรมีพฤติกรรมในการทำงานอย่างไรที่จะสอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์  ?

- ควรมีการสื่อสารแบบไหนที่สอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์  ?

- ตัดสินใจแบบใดที่สอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์ ?

4. กำหนดแนวทางของการสร้างคุณค่าหลักขององค์กร ( Core Value ) ที่ทุกคนจะยึดถือปฏิบัติร่วมกัน

Brand DNA ที่ชัดเจนจะเป็นทิศทางของการกำหนด คุณค่าหลักขององค์กร ซึ่งการกำหนดคุณค่าหลักขององค์กรนั้นต้องมุ่งเน้นการสร้างคนในองค์กรให้มีพันธุกรรมไปในทิศทางเดียวกัน  อาทิ

บริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งมองว่าธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา พนักงานภายในองค์กรต้องมี DNA ของคำว่า Never give up ( คนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ )  ส่วนคุณค่าหลักที่สอดคล้องกันอย่างหนึ่งคือ การ Embrace the change คุณค่าหลักที่เรายึดถือคือ (การโอบกอบความเปลี่ยนแปลง) เป็นต้น  สิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงงานยิ่งอยู่ ยิ่งอิน ยิ่งภูมิใจ ยิ่งอยากมีส่วนร่วมต่อการสร้างคุณค่าหลักองค์กรร่วมกัน


ยกตัวอย่าง:

แบรนด์ที่ 1 Patagonia (แบรนด์ Outdoor จากอเมริกา)

Brand DNA = การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนโดยต่อต้าน Fast Fashion พนักงานทุกคน ได้รับการปลูกฝังเรื่องนี้ ตั้งแต่วันแรก ทุกการตัดสินใจของพนักงาน จะถูกกลั่นกรองผ่าน “DNA” นี้

ผลต่อพนักงาน:

1.ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทำทุกสิ่งเพื่อสร้างความยั่งยืนให้โลก

2.สินค้าใช้ได้ยาวนานและไม่สิ้นเปลืองในการใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ


แบรนด์ที่ 2 Apple

Brand DNA = นวัตกรรม | ความเรียบง่าย | คิดต่าง ผลต่อพนักงาน:

1.ต้องกล้าเสนอไอเดียใหม่ ๆ

2.ให้ความสำคัญกับ “ดีไซน์ที่ใช้งานง่าย”

3.ทำงานแบบ Perfectionist เพื่อให้ได้ของที่ “สมบูรณ์แบบที่สุด”  โดยพนักงานจะถูกคัดเลือกและฝึกให้คิดต่าง และเชื่อในพลังของ Design & Innovation

 

แบรนด์ที่ 3 Starbucks

Brand DNA = การเชื่อมโยงระหว่างผู้คน | ประสบการณ์ที่อบอุ่น | “Third Place”

ผลต่อพนักงาน :

1.ต้องมีความใส่ใจในรายละเอียดของการบริการ

2.สร้างบรรยากาศที่ “อบอุ่นและปลอดภัย” เหมือนบ้าน→ Starbucks เรียกพนักงานว่า "Partners" เพื่อให้รู้สึกว่าทุกคนเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมกัน

 

ตัวอย่าง 4 IKEA

Brand DNA = ความเรียบง่าย | การเข้าถึงได้ | การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น

ผลต่อพนักงาน:

1.ทุกคนต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้ารากหญ้า และหาวิธีออกแบบชีวิตให้ดีขึ้น

2.มีวัฒนธรรมความถ่อมตน (humulines) และการทำงานเป็นทีมโดยพนักงานของ IKEA ถูกเทรนให้ “คิดแบบลูกค้า” มากกว่าคิดแบบแบรนด์หรูครับ


📍ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 088-2236546 (คุณเอม) Sutthinee.b@baramizi.co.th

 

#กลยุทธ์BrandDNA #เข็มทิศของงานHR #InternalBranding #BrandDNA #BaramiziConsultant 

 
 
BARAMIZI CO., LTD

111 True Digital Park West, Unicorn Building, Unit 1016, 10th Floor, Sukhumvit Road, Bangchak, Phra Khanong, Bangkok 10260
Tel : 092-280-8360

www.baramizi-consultant.com

Sale & Marketing 

Email : Sutthinee.b@baramizi.co.th

Phone : 088-223-6546

  • line (1)
  • facebook
  • youtube
Baramizi Consultant
Baramizi Lab
BBA Academic
Baramizi Climate Tech
Innovator X

กรอกข้อมูลเพื่อให้ทีมงานติดต่อกลับ

THANK YOU.

© 2025 by Baramizi Consultant

bottom of page