Brand Licensing หรือการให้สิทธิ์ใช้แบรนด์ (Licensing) คือ การให้สิทธิ์ใช้แบรนด์ (Licensing) แก่บุคคลหรือบริษัทอื่นเพื่อใช้ชื่อ โลโก้ ตัวละคร หรือทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์นั้นๆ ในการผลิตหรือจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยมีการจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าสิทธิ์ (Royalty Fee) ให้แก่เจ้าของแบรนด์
ประวัติความเป็นมาของ Brand Licensing
Brand Licensing หรือ การให้สิทธิ์ใช้แบรนด์ เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีรากฐานมายาวนาน โดยมีจุดเริ่มต้นจากการอนุญาตให้ใช้ชื่อ เครื่องหมายการค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแนวคิดนี้ได้พัฒนาและกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก

จุดเริ่มต้นของ Brand Licensing
1.ยุคต้น (ศตวรรษที่ 19 - ต้นศตวรรษที่ 20)
การให้สิทธิ์ใช้เครื่องหมายการค้าเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น Coca-Cola และ Campbell’s ที่ให้สิทธิ์ร้านค้าใช้โลโก้เพื่อเพิ่มการจดจำแบรนด์ การให้สิทธิ์ผลิตสินค้าโดยใช้แบรนด์เริ่มเกิดขึ้น เช่น ตัวการ์ตูนในหนังสือพิมพ์และของเล่น
2.ยุคทองของ Licensing (กลางศตวรรษที่ 20 - 1970s)
ตัวละครการ์ตูน & ภาพยนตร์ เริ่มได้รับสิทธิ์ผลิตสินค้า เช่น Mickey Mouse ของ Disney ถูกนำไปใช้กับของเล่น เสื้อผ้า และเครื่องเขียน
แบรนด์กีฬาระดับโลก เริ่มขยาย Licensing เช่น Nike และ Adidas ที่ให้สิทธิ์ผลิตเสื้อผ้าและรองเท้า

ภาพ https://www.popsugar.com.au/living/what-original-name-mickey-mouse-44131471
3.ยุค Licensing เติบโต (1980s - 2000s)
แฟรนไชส์บันเทิง เช่น Star Wars, Marvel, และ Harry Potter ใช้ Licensing อย่างจริงจังในอุตสาหกรรมของเล่น เสื้อผ้า และเกม
แบรนด์แฟชั่น & หรูหรา เช่น Gucci, Louis Vuitton ใช้ Licensing ในแว่นตา น้ำหอม และเครื่องสำอาง
กีฬา & อีเวนต์ระดับโลก เช่น FIFA, NBA, และ Olympics ใช้ Licensing ในการสร้างสินค้าทางการ
4.ยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี (2010s - ปัจจุบัน)
การให้สิทธิ์ด้านดิจิทัล เช่น วิดีโอเกม NFT และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ใช้ตัวละครและแบรนด์
การขยาย Licensing ไปยัง Metaverse เช่น แบรนด์ต่างๆ สร้างสินค้าดิจิทัลที่ใช้ในโลกเสมือน

ภาพ : https://www.latimes.com/food/story/2022-04-19/bored-ape-nft-restaurant-la-long-beach
ปัจจุบัน & อนาคตของ Brand Licensing
Market Cap ของตลาด Brand Licensing มีมูลค่าสูงกว่า $300,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
แบรนด์ระดับโลกใช้ Licensing เป็น กลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจโดยไม่ต้องลงทุนเอง มีการผสาน Licensing กับ เทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, NFT, และ Metaverse
Brand Licensing โมเดลธุรกิจเปลี่ยนโลก
ตัวอย่างของแบรนด์ Walt Disney กลุ่มธุรกิจบันเทิงเพื่อครอบครัวถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มาจาก Brand Licensing เป็นหลัก ซึ่งอาณาจักรแห่งลิขสิทธิ์สามารถทำเงินสูงสุดในโลกโดย Disney มีรายได้จาก Licensing มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยใช้ Licensing กับสินค้าหลากหลาย เช่น ของเล่น เสื้อผ้า สวนสนุก และเกมส์ เป็นต้น

ภาพ : https://thecoasterkings.com/marvel-avenger-campus-at-wds/
กลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนโมเดลแบบ Brand Licensing
1.ตัวละครเป็นศูนย์กลาง: Mickey Mouse, Star Wars, Marvel ฯลฯ
2.ขยายผ่านพาร์ทเนอร์: เช่น LEGO Star Wars, Hasbro Marvel Toys
3.Theme Park & Experience: ใช้ Licensing ในสวนสนุก และคาเฟ่ Disney
ผลลัพธ์: แบรนด์ Disney สามารถขยายไปอยู่ทุกที่ทั่วโลก บนต้นทุนที่ต่ำ และสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดี โดยสามารถสร้างรายได้จาก Licensing เป็นอันดับ 1
Key Takeaways
1.การใช้ Brand Licensing เพื่อขยายแบรนด์โดยไม่ต้องลงทุนผลิตเองเป็นการลดความเสี่ยงของธุรกิจ
2.การใช้กลยุทธ์ Brand Licensing มักจะเป็นการ Collaboration กับแบรนด์ดัง เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าทำให้คุณค่าแบรนด์หรือมูลค่าแบรนด์ขยายได้รวดเร็ว
3.การใช้กลยุทธ์ Brand Licensing มักขยายไปในหลายหมวดหมู่สินค้าและบริการ ทั้งนี้ทำให้เกิด Ecosystem ที่สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
4.การใช้กลยุทธ์ Brand Licensing ทำให้แบรนด์กลายเป็นไลฟ์สไตล์ไม่ใช่แค่สินค้า
5. การใช้กลยุทธ์ Brand Licensing ช่วยสร้างประสบการณ์แบรนด์ได้เป็นอย่างดีทำให้เกิดแบรนด์ที่มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ตัวอย่าง Expereince เช่น Café & Theme Park

ภาพ : https://www.newscentermaine.com/article/news/nation-world/disney-expansion-theme-parks-cruises-investment/507-73e8aa33-1968-4953-9720-5d3b63c8d78d
โดยสรุป Brand Licensing ไม่ใช่แค่การให้เช่าชื่อแบรนด์ แต่มันคือกลยุทธ์ขยายธุรกิจที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับเจ้าของแบรนด์ไปทั่วโลกแบบยั่งยืน
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาด้านการพัฒนาแบรนด์ให้มีมูลค่าและทำให้ธุรกิจเติบโต
ได้ที่ โทร. 088-2236546 (คุณเอม)
อีเมล์ Sutthinee.b@baramizi.co.th