ทำไม Brand Impact จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างมูลค่าแบรนด์ ?
การประเมินตรวจวัดมูลค่าแบรนด์ องค์ประกอบสำคัญซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้มูลค่าแบรนด์ หรือ ค่าตัวแบรนด์ท่านสูงขึ้นนั้น ตัวแปรสำคัญคือ การวัดผลได้ว่าลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการของท่านเพราะแบรนด์มากน้อยแค่ไหน ? คำว่า Brand Impact จึงเป็นคำที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพ หรือวัดผลการสร้างแบรนด์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เป็นการวัดว่าแบรนด์ของท่านมีอิทธิพลในตลาดมากน้อยแค่ไหน ?
นิยาม Brand Impact คือ สภาวะการที่แบรนด์ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อ ของลูกค้าซึ่งมาจากความไว้วางใจ, ความเชื่อมั่น, ตลอดจนความรัก ความศรัทธาที่มีในแบรนด์นั้น ๆ
ทำไมลูกค้าถึงซื้อเพราะแบรนด์?
ครั้งหนึ่ง CEO ของแบรนด์ระดับโลกแบรนด์หนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า ถ้าโลกนี้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ถึงกับโลกพังพินาศ และเมื่อโลกกลับมารื้อฟื้นใหม่อีกครั้ง แบรนด์ของผมต้องทรงพลังพอที่จะทำให้ทุกธนาคารยินดีให้กู้เงิน ทำไมเขาจึงกล่าวเช่นนั้น
นั่นเป็นคำกล่าวที่ว่า แบรนด์ที่ทรงพลังย่อมได้รับการช่วยเหลือก่อน เพราะแบรนด์ที่ครองใจผู้คน ย่อมฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน ผมว่าคำกล่าวนี้สมเหตุสมผลมากเลยทีเดียว เพราะการที่แบรนด์ที่มีพลังในการดึงดูดผู้คนนั้นในยามเศรษฐกิจดีก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ในยามที่เกิดวิกฤติที่ทุกธุรกิจต้องเกิดผลกระทบทางลบนั้น แบรนด์ที่มีพลังที่แข็งแกร่งนั้นก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าเช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่คนหนึ่งคนจะเลือกซื้อสินค้านั้นมีหลากหลายเหตุผล ซึ่งการทำให้คนตัดสินใจซื้อนั้นมีเหตุผลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 : เหตุผลเพราะไม่มีทางเลือกอื่น เช่น เป็นธุรกิจที่มีการผูกขาดสัมปทานเช่น รถไฟฟ้า, น้ำประปา, ไฟฟ้า, เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 : เหตุผลเพราะตอบสนองคุณค่าด้านประโยชน์ที่จับต้องได้ เช่น ราคาถูก, สะดวก, หาง่าย, ทนทาน,ติดใจพนักงานขาย เป็นต้น
กลุ่มที่ 3 : เหตุผลเพราะตอบสนองคุณค่าทางด้านอารมณ์และความรู้สึก เช่น มีระดับ, หรูหรา, แตกต่าง, เป็นมิตร, เท่, ห่วงใย, ซึ่งในปัจจุบันเหตุผลในข้อนี้นั้นไปถึงระดับความเชื่อ ความศรัทธา หรือวิสัยทัศน์และพันธกิจ (Brand Future Vision) ของแบรนด์นั้นๆ ที่ส่งมอบให้กับโลกใบนี้ เป็นต้น
ทั้ง 3 เหตุผลนั้นถ้าทำให้ลูกค้าซื้อได้นั้นผมว่าก็ดีหมดทุกข้อ แต่เหตุผลที่ไม่มีทางเลือกเพราะแบรนด์มีผลน้อยมาก ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้มี Brand Impact ต่อลูกค้า ซึ่งในขณะเดียวกัน เหตุผลเพราะตอบสนองคุณค่าด้านประโยชน์ที่จับต้องได้นั้นมีข้อเสียตรงที่คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ง่าย และลูกค้ามีการเปลี่ยนการตัดสินใจซื้อได้ง่ายเมื่อถูกดึงดูดด้วยโปรโมชั่นทางด้านราคา ซึ่งถ้าเหตุผลของการทำให้ลูกค้าซื้อเราจัดอยู่ในกลุ่มนี้ ท่านมีสิทธิ์ที่จะเจอปัญหา สงครามด้านราคา (Price war)
ภาพ : https://www.motorauthority.com/news/1136914_mercedes-drive-pilot-test-drive-review
ส่วนเหตุผลในการซื้อที่จัดว่าเป็นการสะท้อนความแข็งแรงของธุรกิจ และของแบรนด์นั้นคือ เหตุผลที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพราะคุณค่าด้านอารมณ์ และความรู้สึก ถ้าซื้อเพราะด้วยเหตุผลในข้อนี้นั้นจัดว่าแบรนด์ของท่านมีผลในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ซึ่งคุณค่าทางด้านอารมณ์นั้นเป็นสิ่งที่คู่แข่งลอกเลียนแบบยากในขณะเดียวกันลูกค้าก็ไม่ค่อยเปลี่ยนการตัดสินใจเพียงเพราะราคาหรือเพราะโปรโมชั่น
เรามาลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ว่าจริงไหม?
- เหตุผลที่เราซื้อรถ เบนซ์ เพราะ ความรู้สึกที่หรูหราสะท้อนสถานะทางสังคม
- เหตุผลที่เราซื้อนมตราหมีไปฝากเพื่อเมื่อยามเจ็บป่วย เพราะสะท้อนความรู้สึกถึงความห่วงใย ใส่ใจ
- เหตุผลที่เราซื้อโทรศัพท์ iPhone ของ Apple เพราะความรู้สึกที่เรียบง่าย มีดีไซน์ มีความแตกต่าง
- เหตุผลที่เราซื้อรองเท้าไนกี้ เพราะความรู้สึกถึงแรงบันดาลใจในการเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จเป็นผู้ชนะ
- เหตุผลที่เราซื้อแหวนเพชรจาก ทิฟฟานี่แอนด์โค เพราะทำให้ผู้ได้รับรู้สึกถึงความแสนพิเศษ เพียงแค่ได้เห็นกล่องสีฟ้า เราก็เชื่อมั่นว่าสินค้าในกล่องต้องสร้างความประทับใจได้อย่างแน่นอน
โดยสรุปทำไมลูกค้าซื้อเพราะแบรนด์ จะต้องมีองค์ประกอบของทั้งสองส่วน คือซื้อเพราะมีประโยชน์ใช้สอยที่ดี ควบคู่ไปกับการที่แบรนด์แบรนด์นั้นสามารถตอบสนองคุณค่าทางอารมณ์ที่มีความพิเศษมากกว่าแค่ตัวสินค้าหรือบริการ แต่เป็นสถานะทางสังคม, สะท้อนบุคลิกภาพ, สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง หรือแม้กระทั่งการซื้อเพราะศรัทธาแนวคิดของแบรนด์ๆ นี้และเราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมากกว่าลูกค้ากลายไปเป็นสาวกของแบรนด์ๆ นี้
Brand ที่จะสร้าง Impact ให้เกิดการตัดสินใจซื้อต้องทำอย่างไร?
ผมเอาเคล็ดลับมาฝากเผื่อลองเอาไปปรับใช้กันได้ หากท่านต้องการหากลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ของท่านไปสร้าง impact จนลูกค้าอยากมาอุดหนุนนั้นท่านต้องคิดและทำอย่างไร?
1. แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน (Relevant)
ลองตอบคำถามในข้อเหล่านี้ให้ได้ว่า
- แบรนด์เราเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันลูกค้าอย่างไร?
- แบรนด์เราไปอยู่ในช่วงเวลาไหนของชีวิตลูกค้า?
- ลูกค้าซื้อแบรนด์เราไปในโอกาสใดบ้าง?
2. แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าและบริการความโดดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน (Competitive Advantage)
- แบรนด์เรามีอะไรที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
3. แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากแบรนด์ยอดเยี่ยมมากจนอยากแชร์ต่อบอกต่อ (Superfans)
- แบรนด์เราส่งมอบประสบการณ์ผ่าน Touch point หลักอะไรที่ส่งตรงไปยังลูกค้า?
- ใน Touch point นั้นๆ จะสร้างความรู้สึกพิเศษอย่างไร?
โดยสรุป Brand Impact ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า แบรนด์เราทรงพลังมากน้อยแค่ไหน? เมื่อแบรนด์เราส่งผลทำให้ลูกค้าอยากซื้อ อยากสนับสนุน อยากบอกต่อ สิ่งเหล่านี้จะเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญที่ทำให้มูลค่าแบรนด์เราเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
...........................................................................................
📣 เพราะแบรนด์คือรากฐานที่สำคัญของทุกธุรกิจ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้และกำไรงานเทศกาลนวัตกรรมและความรู้การสร้างแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดประจำปี Bangkok International Branding Festival 2024
งานอีเวนท์ที่รวบรวมความรู้ความเชี่ยวชาญจากผู้ที่มีประสบการณ์และเวทีของแบรนด์ที่เป็นที่สุดในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ในปีนี้ “Branding In the Future” สร้างแบรนด์ยุคใหม่ สร้างแบรนด์ให้เป็นสินทรัพย์
🟥🟡🔷 พบกับ 5 Highlight ภายในงานที่เฉพาะงานนี้ ไม่ควรพลาด!!!
1. การทรานส์ฟอร์มแบรนด์ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Asset)
2. วิธีการวัดมูลค่าแบรนด์แห่งอนาคตต้องวางแผน คิด และทำอย่างไร ?
3. วิธิการพัฒนาแบรนด์ให้มีความแตกต่างด้วยงานออกแบบที่ทรงพลัง
4. ประกาศรางวัล The Most Valuable Brand 2024 แบรนด์ที่มีมูลค่าแห่งอนาคตมากที่สุดประจำปี 2024 มากกว่า 10 กลุ่มอุตสาหกรรม
5. ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อาทิ Brand research, Brand Strategist, Brand identity Design , Brand Experience design เป็นต้นสามารถจองบัตร Early Bird ได้แล้ววันนี้
ในราคา 2,000 บาท (จากราคาปกติ 2,500 บาท)
🚩 สำหรับองค์กรที่ต้องการใบเสนอราคาบัตรองค์กร หรือสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน
Bangkok International Branding Festival 2024
สามารถติดต่อได้ที่ Contact@baramizi.co.th
หรือโทร. 098 - 1474652 (ไอซ์) ผู้จัดงาน